ภาพยนตร์อนิเมชั่นจากญี่ปุ่นที่ถูกนำเข้ามาฉายโรงภาพยนตร์ของประเทศไทยแต่เดิม มักเป็นแบบที่มีเนื้อหาหรือตัวละครจากสื่ออื่นในไทยเผยแพร่-มีคนติดต...
ภาพยนตร์อนิเมชั่นจากญี่ปุ่นที่ถูกนำเข้ามาฉายโรงภาพยนตร์ของประเทศไทยแต่เดิม มักเป็นแบบที่มีเนื้อหาหรือตัวละครจากสื่ออื่นในไทยเผยแพร่-มีคนติดตามมาก่อนอยู่แล้ว เช่น ซีรีส์ฉายทางโทรทัศน์ ,ซีรีส์วางขายในรูปแบบวีซีดี+ดีวีดี ,ฉายออนไลน์ หรือมีต้นฉบับหนังสือการ์ตูนวางขาย และไม่ใช่แนวโรแมนติก เน้นความรักของคู่พระ-นางด้วย
ทว่าอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นซึ่งเนื้อหาต้นฉบับคือ แบบภาพยนตร์ หรือเน้นความรักของพระเอก-นางเอกนั้นออกฉายน้อยกว่ามาก จนกระทั่งการมาถึงของ "Kimi no Na wa - Your Name" (หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ) ได้สร้างกระแสความนิยมระดับปรากฏการณ์ ขึ้น ส่งผลให้ช่วงปีที่ผ่านมา (2016-2017) ค่ายหนังไทยนำภาพยนตร์อนิเมชั่นที่เนื้อหาต้นฉบับคือ แบบภาพยนตร์ หรือเน้นความรักของพระเอก-นางเอกเป็นหลักออกฉายโรงภาพยนตร์ตามมาหลายเรื่อง แต่ไม่มีเรื่องใดประสบความสำเร็จใกล้เคียงกับ "Your Name" อีกจนกระแสเริ่มถดถอยลงไปมาก
ผมจึงลองมาวิเคราะห์ย้อนรอยดู ว่าเหตุใดปรากฏการณ์ความสำเร็จในประเทศไทยของ "Your Name" ถึงเกิดขึ้น ? และเหตุใดอนิเมชั่นญี่ปุ่นแนวใกล้เคียงกันที่ฉายตามมาหลายเรื่องไม่อาจประสบความสำเร็จพอจะรักษากระแสความนิยมเอาไว้ได้ ?
อนิเมชั่นเรื่อง "Your Name" เต็มไปด้วยข้อดีมากมาย เริ่มจากมีผู้กำกับเก่งกาจอย่าง "ชินไค มาโคโตะ" ผู้สร้างจังหวะการเล่าเรื่องอย่างเหมาะสมตลอดทั้งเรื่อง
ช่วงไหนต้องเล่าเรื่องเยอะ ๆ เช่น ช่วงรู้ตัวเรื่องสลับร่างกันก็เล่าแบบตัดสลับภาพเหตุการณ์เร็ว ๆพร้อมใส่ดนตรีประกอบจนดูแล้วเพลิน
ช่วงไหนต้องสร้างอารมณ์ร่วมกับตัวละครก็ใช้จังหวะเล่าช้า ๆ ปล่อยให้ซึมซับความรู้สึก (แต่ไม่ช้าจนรู้สึกเนิบนาบ-ซึ่งตรงนี้หนังญี่ปุ่นเรื่องอื่นมักปล่อยอารมณ์เนิบช้าเกินไป)
เล่าเรื่องความต่างของเวลา+สถานที่อยู่ระหว่างพระเอก-นางเอก ออกมาเข้าใจง่าย เพราะใส่บทอธิบายและนิสัยคู่พระ-นางต่างกันชัดเจน ทำให้ตอนสลับตัวมองออกว่าใครเป็นใครสบาย ๆ
พล็อตเรื่องส่วนที่ใส่สัญลักษณ์หรือคำพูดให้ตีความของเรื่องนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยากเกินไป (คนเคยดูเรื่องนี้ ผมว่าแค่คำว่า "มุซึบิ" คงนึึกความหมายออกง่าย ๆ) แต่หากไม่เข้าใจสามารถมองข้ามได้ ,ไม่เสียอารมณ์ในการดู (ตรงนี้หนังญี่ปุ่นเรื่องอื่นมักทำให้คนดูที่เคยดูแต่หนังไทย ,หนังฮอลลีวู้ด หรือหนังอนิเมชั่นทั่วไป งงกับการต้องตีความกันซะเป็นเรื่องสามัญเลยทีเดียว)
บรรยากาศในเรื่องยังสบาย ๆซะส่วนใหญ่ มุกตลกโผล่มาแทรกเป็นระยะ ไหนจะงานภาพงามหยด เพลงประกอบไพเราะ(แม้แปลไม่ออก :P) ตัวละครหน้าตาดี มีซึ้ง ,มีลุ้น แล้วยังจบดีอีกต่างหาก :)
เมื่อความดีงามรวมไว้พร้อมขนาดนี้ย่อมไม่แปลก ที่กระแสความนิยมจะบังเกิด พอคนดูแล้วชอบ บอกต่อคนอื่นให้ดูแล้วหนังสนุกจริง เข้าถึงคนดูง่ายก็บอกต่อ ๆกันเพิ่ม สุดท้ายจึงกลายเป็น ปรากฏการณ์ ความสำเร็จ
หลายคนอาจบอกว่าคนดูหนังทั่วไปเอาแต่มองว่าอนิเมชั่นมันคือสิ่งที่ไว้ให้เด็กดู-อคติว่า "การ์ตูนเป็นเรื่องสำหรับเด็ก" จนภาพยนตร์อนิเมชั่นญี่ปุ่นเรื่องอื่นซึ่งไม่มีกระแสสังคมอินเตอร์เน็ตส่งเสริม ไม่โด่งดัง ,ขาดคนดู ผมมองว่าเรื่องนี้ที่จริงส่งผลน้อยมาก ครับ มิเช่นนั้นกระแสของ Your Name คงไม่เกิดแต่แรก และตอนที่กระแสมันมาจนเรื่องแนวคล้ายกันฉายตามหลัง คนดูที่ิน่าจะเคยอคติว่าการ์ตูนต้องเด็กดูควรรู้สึกอคติน้อยลงหลังดู Your Name แล้วสิ
สาเหตุแท้จริงควรเป็น ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่เนื้อหาต้นฉบับคือ แบบภาพยนตร์ หรือเน้นความรักของพระเอก-นางเอกเป็นหลัก ของญี่ปุ่นตามปกตินั้น "ไม่ใช่สิ่งที่คนดูวงกว้างของประเทศไทยชอบ" ตั้งแต่แรก อนิเมชั่นแนวนี้ของญี่ปุ่นมักเล่าเรื่องลักษณะที่มีปัญหาต่อคนดูวงกว้างในไทย เช่น
- จังหวะการเดินเรื่องบางช่วงเนิบนาบ
- เนื้อหาสื่ออารมณ์ ,คำพูดหรือสัญลักษณ์แบบญี่ปุ่น ๆจนคนดูทั่วไปงงเป็นเรื่องปกติ
- เนื้อหาหนัก ๆ ,ความรักไม่สมหวัง หรือดูแล้วชวนปวดใจ ที่คนดูอนิเมชั่นญี่ปุ่นชอบเรียกกันว่า "ปวดตับ"
(ขอย้ำหน่อยว่าไม่ใช่มีเรื่องพวกนี้แล้วหนังไม่ดีนะ แค่คนดูไทยไม่ค่อยชอบ)
กลับกัน Your Name ไม่มีปัญหาเหล่านี้สักข้อ หรือถ้ามีมันก็รู้สึกเล็กน้อยมองข้ามได้ แถมหนังรัก Feel Good (ดูแล้วรู้สึกดี) นี่เป็นอะไรที่คนดูวงกว้างในไทยชอบแน่อยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่มีคนบ่นช่วงนึงหรอกว่า หนังไทยมีแต่หนังผี, หนังรักกับหนังตลก ต่อให้อนิเมชั่นญี่ปุ่นงานภาพงามแค่ไหน เพลงประกอบไพเราะเพียงใด ถ้าเล่าเรื่องไม่สนุก-เนื้อหาไม่ถูกใจ (หรือไม่จบ Feel Good ชวนให้อยากดูซ้ำหลาย ๆรอบ) ความสำเร็จย่อมไม่เกิด
ดังนั้นหากอนิเมชั่นญี่ปุ่นยังเน้นขายงานเฉพาะในประเทศแม่ ไม่สนใจรสนิยมคนดูตลาดต่างประเทศต่อไป ความสำเร็จวงกว้างระดับ ปรากฏการณ์ แบบ Your Name ครั้งถัดไป น่าจะยังต้องรออีกนานครับ (นอกจากชินไค มาโคโตะจะยอมปล่อยหนังรักที่จบ Feel Good ออกมาอีก)
ทว่าอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นซึ่งเนื้อหาต้นฉบับคือ แบบภาพยนตร์ หรือเน้นความรักของพระเอก-นางเอกนั้นออกฉายน้อยกว่ามาก จนกระทั่งการมาถึงของ "Kimi no Na wa - Your Name" (หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ) ได้สร้างกระแสความนิยมระดับปรากฏการณ์ ขึ้น ส่งผลให้ช่วงปีที่ผ่านมา (2016-2017) ค่ายหนังไทยนำภาพยนตร์อนิเมชั่นที่เนื้อหาต้นฉบับคือ แบบภาพยนตร์ หรือเน้นความรักของพระเอก-นางเอกเป็นหลักออกฉายโรงภาพยนตร์ตามมาหลายเรื่อง แต่ไม่มีเรื่องใดประสบความสำเร็จใกล้เคียงกับ "Your Name" อีกจนกระแสเริ่มถดถอยลงไปมาก
ผมจึงลองมาวิเคราะห์ย้อนรอยดู ว่าเหตุใดปรากฏการณ์ความสำเร็จในประเทศไทยของ "Your Name" ถึงเกิดขึ้น ? และเหตุใดอนิเมชั่นญี่ปุ่นแนวใกล้เคียงกันที่ฉายตามมาหลายเรื่องไม่อาจประสบความสำเร็จพอจะรักษากระแสความนิยมเอาไว้ได้ ?
สาเหตุแห่งปรากฏการณ์ความสำเร็จของ Your Name
อนิเมชั่นเรื่อง "Your Name" เต็มไปด้วยข้อดีมากมาย เริ่มจากมีผู้กำกับเก่งกาจอย่าง "ชินไค มาโคโตะ" ผู้สร้างจังหวะการเล่าเรื่องอย่างเหมาะสมตลอดทั้งเรื่อง
ช่วงไหนต้องเล่าเรื่องเยอะ ๆ เช่น ช่วงรู้ตัวเรื่องสลับร่างกันก็เล่าแบบตัดสลับภาพเหตุการณ์เร็ว ๆพร้อมใส่ดนตรีประกอบจนดูแล้วเพลิน
ช่วงไหนต้องสร้างอารมณ์ร่วมกับตัวละครก็ใช้จังหวะเล่าช้า ๆ ปล่อยให้ซึมซับความรู้สึก (แต่ไม่ช้าจนรู้สึกเนิบนาบ-ซึ่งตรงนี้หนังญี่ปุ่นเรื่องอื่นมักปล่อยอารมณ์เนิบช้าเกินไป)
เล่าเรื่องความต่างของเวลา+สถานที่อยู่ระหว่างพระเอก-นางเอก ออกมาเข้าใจง่าย เพราะใส่บทอธิบายและนิสัยคู่พระ-นางต่างกันชัดเจน ทำให้ตอนสลับตัวมองออกว่าใครเป็นใครสบาย ๆ
พล็อตเรื่องส่วนที่ใส่สัญลักษณ์หรือคำพูดให้ตีความของเรื่องนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยากเกินไป (คนเคยดูเรื่องนี้ ผมว่าแค่คำว่า "มุซึบิ" คงนึึกความหมายออกง่าย ๆ) แต่หากไม่เข้าใจสามารถมองข้ามได้ ,ไม่เสียอารมณ์ในการดู (ตรงนี้หนังญี่ปุ่นเรื่องอื่นมักทำให้คนดูที่เคยดูแต่หนังไทย ,หนังฮอลลีวู้ด หรือหนังอนิเมชั่นทั่วไป งงกับการต้องตีความกันซะเป็นเรื่องสามัญเลยทีเดียว)
บรรยากาศในเรื่องยังสบาย ๆซะส่วนใหญ่ มุกตลกโผล่มาแทรกเป็นระยะ ไหนจะงานภาพงามหยด เพลงประกอบไพเราะ(แม้แปลไม่ออก :P) ตัวละครหน้าตาดี มีซึ้ง ,มีลุ้น แล้วยังจบดีอีกต่างหาก :)
เมื่อความดีงามรวมไว้พร้อมขนาดนี้ย่อมไม่แปลก ที่กระแสความนิยมจะบังเกิด พอคนดูแล้วชอบ บอกต่อคนอื่นให้ดูแล้วหนังสนุกจริง เข้าถึงคนดูง่ายก็บอกต่อ ๆกันเพิ่ม สุดท้ายจึงกลายเป็น ปรากฏการณ์ ความสำเร็จ
สาเหตุที่อนิเมชั่นแนวคล้ายกันเรื่องอื่นไม่อาจรักษากระแสคนดูชาวไทยไว้ได้
สาเหตุแท้จริงควรเป็น ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่เนื้อหาต้นฉบับคือ แบบภาพยนตร์ หรือเน้นความรักของพระเอก-นางเอกเป็นหลัก ของญี่ปุ่นตามปกตินั้น "ไม่ใช่สิ่งที่คนดูวงกว้างของประเทศไทยชอบ" ตั้งแต่แรก อนิเมชั่นแนวนี้ของญี่ปุ่นมักเล่าเรื่องลักษณะที่มีปัญหาต่อคนดูวงกว้างในไทย เช่น
- จังหวะการเดินเรื่องบางช่วงเนิบนาบ
- เนื้อหาสื่ออารมณ์ ,คำพูดหรือสัญลักษณ์แบบญี่ปุ่น ๆจนคนดูทั่วไปงงเป็นเรื่องปกติ
- เนื้อหาหนัก ๆ ,ความรักไม่สมหวัง หรือดูแล้วชวนปวดใจ ที่คนดูอนิเมชั่นญี่ปุ่นชอบเรียกกันว่า "ปวดตับ"
(ขอย้ำหน่อยว่าไม่ใช่มีเรื่องพวกนี้แล้วหนังไม่ดีนะ แค่คนดูไทยไม่ค่อยชอบ)
กลับกัน Your Name ไม่มีปัญหาเหล่านี้สักข้อ หรือถ้ามีมันก็รู้สึกเล็กน้อยมองข้ามได้ แถมหนังรัก Feel Good (ดูแล้วรู้สึกดี) นี่เป็นอะไรที่คนดูวงกว้างในไทยชอบแน่อยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่มีคนบ่นช่วงนึงหรอกว่า หนังไทยมีแต่หนังผี, หนังรักกับหนังตลก ต่อให้อนิเมชั่นญี่ปุ่นงานภาพงามแค่ไหน เพลงประกอบไพเราะเพียงใด ถ้าเล่าเรื่องไม่สนุก-เนื้อหาไม่ถูกใจ (หรือไม่จบ Feel Good ชวนให้อยากดูซ้ำหลาย ๆรอบ) ความสำเร็จย่อมไม่เกิด
ดังนั้นหากอนิเมชั่นญี่ปุ่นยังเน้นขายงานเฉพาะในประเทศแม่ ไม่สนใจรสนิยมคนดูตลาดต่างประเทศต่อไป ความสำเร็จวงกว้างระดับ ปรากฏการณ์ แบบ Your Name ครั้งถัดไป น่าจะยังต้องรออีกนานครับ (นอกจากชินไค มาโคโตะจะยอมปล่อยหนังรักที่จบ Feel Good ออกมาอีก)
COMMENTS