“Elio” เป็นหนังคู่หูเฮฮาตะลุยอวกาศ เรื่องแรกของพิกซาร์, แอนิเมชั่นเรื่องนี้จะพาผู้ชม ร่วมกระโจนสู่ ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ด้วยงานออกแบบที่เ...
“Elio” เป็นหนังคู่หูเฮฮาตะลุยอวกาศ เรื่องแรกของพิกซาร์, แอนิเมชั่นเรื่องนี้จะพาผู้ชม ร่วมกระโจนสู่ ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น
ด้วยงานออกแบบที่เหนือจริง และมีความงดงาม, โดยใช้ส่วนผสมของเทคนิคภาพ ทั้งเก่าและใหม่
ตัวเอกคือเด็กกำพร้า อายุประมาณ 11 ปี, ซึ่งคลั่งไคล้สิ่งที่เรียกว่า การถูกลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาว
ที่เมื่อความปรารถนาของเขา เกิดเป็นจริง, ก็ดันถูกเข้าใจผิดว่า เป็นผู้นำของโลก
เอลิโอโดนพาไปยัง คอมมูนิเวิร์ส, องค์กรระดับจักรวาล ที่ปลอดภัย มีสันติ และสีสันของบรรยากาศ เหมือนลูกกวาด
ที่ซึ่งเขาจะได้ผูกพัน กับเอเลี่ยนรูปร่างคล้ายหนอน กลอร์ดอน (Glordon) ผู้เคว้งคว้างและขาดเพื่อน ไม่ต่างกัน
ก่อนถูกเจอตัว และส่งกลับบ้านไปยัง ฐานทัพอากาศ, สถานที่ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับ คุณป้าโอลก้า (Olga)
“ Elio” สะท้อนสภาวะหลังยุคโควิด มันเกี่ยวกับความเปล่าเปลี่ยว และการค้นหาที่อยู่ของตัวเอง, ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เด็ก ๆ หลายคนต้องเผชิญ
การสูญเสียบุพการี ทำให้เอลิโอประสบปัญหา ในการเข้าสังคมกับเด็กคนอื่น ๆ ที่ฐานทัพอากาศ
ขณะเดียวกัน ป้าของเขาก็ลำบาก ในการรับมือบทบาทใหม่ของเธออย่าง การเป็นแม่บุญธรรม
ภาพยนตร์เรื่องนี้คือผลลัพธ์ จากความคิดของ เอเดรียน โมลินา (1 ในผู้กำกับ “ Coco”)
อันตั้งใจเล่าประสบการณ์ส่วนตัว ที่ต้องผ่านการก้าวพ้นวัยมา, แม้ว่ารู้สึกแปลกแยก จากสังคม
เพราะเติบโตขึ้นมาในฐานทัพ และไม่เคยต่อติดกับใคร, จนกระทั่งได้เรียน ด้านอนิเมชั่น ที่ Calarts
แต่โมลินา ก็ยังไม่มีโอกาสฉายเดี่ยวสร้าง “Elio”, เนื่องด้วย หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ (พีท ดอกเตอร์) โยกเขาไปทำ “Coco 2” ร่วมกับผกก.รายอื่น
เมเดลีน ชาราเฟียน (หนังสั้น “Burrow) และโดมี ชิ (“ Turning Red”) จึงได้โดดมาร่วมวงกำกับ
“เราพยายามที่จะใส่สัมผัส แห่งอารมณ์เหงา เข้าไปใน 'Elio', ร่วมกับความต้องการ สถานที่สำหรับตน
อยากเชื่อมต่อกับผู้คน จากส่วนลึก แม้ไม่รู้หนทาง” ชาราเฟียนกล่าวกับ Indiewire
“ฉันคิดว่าคนหนุ่มสาวจำนวนมาก แค่ต้องการเพื่อน, พวกเขาอยากเจอ คนของพวกเขา
แต่พวกเขามองว่ามันต้องเป็น ที่ที่สมบูรณ์แบบ ที่ทุกคนคิดเหมือนฉัน นั่นถึงใช่, ซึ่งถ้าได้จริง ชีวิตฉันคงไม่เหลือปัญหา”
“แต่จริง ๆ แล้ววิธีแก้ปัญหา น่ะมาจากภายใน” ชิบอกกับ Indiewire
“มันเกี่ยวกับการเริ่มก้าวแรก - แค่เอื้อมมือไปหาใครสักคน, มันไม่ใช่เรื่องตามสูตรจ๋าอย่าง ‘พุ่งสู่อวกาศและออกสำรวจ’ มันลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น”
การสร้างคอมมูนิเวิร์ส คือโครงงานนักศึกษา
สำหรับภาพยนตร์พิกซ่าร์เรื่องสุดท้ายของเขา ก่อนที่จะเกษียณ, นักออกแบบผู้มากประสบการณ์ ฮาร์ลีย์ เจสซัป (“Coco”,“Ratatouille”,“Monsters, Inc.”)
ได้คิดค้นกระบวนการทดลอง เพื่อค้นหารูปลักษณ์ ของคอมมูนิเวิร์ส
โดยร่วมมือกับผู้ดูแลภาพ คลอเดีย ชุง ซานี (“Zootopia”,“Brave”) เขาเรียกมันว่า "โครงงานนักศึกษา" (College Project) เพื่อสื่อถึงจิตวิญญาณ ที่จะออกค้นหา
พวกเขาใช้ VR และการถ่ายภาพมาโครในถังเก็บน้ำ, คล้ายกับงานแรก ๆ ของเขาใน ILM อย่าง "Inner Space"
การทดสอบครั้งหนึ่ง คือบันทึกด้านข้าง ในแก้วน้ำดื่ม ที่ปาร์ตี้ของพิกซาร์, อีกครั้งคือ เติมน้ำมันและน้ำในชามแก้ว ที่ตั้งอยู่ด้านบนของพื้นผิว ที่เลื่อมและแวววาว
เป้าหมายคือ สร้างบรรยากาศของอวกาศ ที่ไม่เหมือนใคร และไม่เคยปรากฏบนแผ่นฟิล์ม
ราวกับมันทำจาก วัสดุเรืองแสงและโปร่งใส ที่มีแรงโน้มถ่วงซึ่งเลื่อนไหล เพื่อรองรับหลากหลายสายพันธุ์
ผลที่ได้คือฐานอวกาศ อันเป็นที่อยู่อาศัยของสมาชิก จาก 16 ดาวเคราะห์ ที่พึ่งพิงระบบนิเวศสี่แบบ
ซึ่งแสดงในลักษณะชุด ของแผ่นหมุน, มีทั้งแผ่นร้อนภูเขาไฟ แผ่นเย็นน้ำแข็ง แผ่นระบบนิเวศน้ำและแผ่นป่าเขียวขจี
เพื่อนซี้ตลอดไป กลอร์ดอน
กลอร์ดอน ผู้คล้ายหนอนจากถิ่นภูเขาไฟ เป็นหนึ่งในมนุษย์ต่างดาวที่พิกซาร์ชื่นชอบ
เช่นเดียวกับเอลิโอ เขาเหงาและเข้ากับวัฒนธรรมบ้านเกิดไม่ได้ แม้ถูกคาดหวังไว้ว่า
จะสวมชุดเกราะทหาร และกลายเป็นนักรบมหากาฬ เฉกเช่นลอร์ดกริออน (พ่อของเขา)
การออกแบบกลอร์ดอนได้รับอิทธิพลจาก การศึกษาตัวอ่อนแมลง และสิ่งมีชีวิตจุลินทรีย์
การหาสมดุลที่ดี ระหว่างความพิลึกกับน่ารัก คือความท้าทายใหญ่อย่างแรก, และอีกอย่างได้แก่ การหาวิธีแสดงอารมณ์ ให้สิ่งมีชีวิตไร้ลูกตา
“ฉันคิดว่าส่วนหนึ่งของสิ่งที่พิเศษสำหรับฉัน ปรากฏตรงช่วงเวลาแรก ที่คุณได้พบ [กลอร์ดอน]”
หัวหน้างานอนิเมชั่น จู๊ด บราวน์บิลล์ บอกกับ Indiewire
“เขาทั้งลึกลับ น่ากลัว น่าขนลุก และมาพร้อมซี่ฟันเพียบ”
แต่จากนั้น หนึ่งในตัวละครที่ดู น่าขนพองสยองเกล้าที่สุด, กลับทำให้เรา ได้ฉีกยิ้มกว้างใหญ่ไพศาล บนใบหน้า
“เอลิโอกับกลอร์ดอน จะพัฒนามิตรภาพที่ทรงเสน่ห์ จริงใจ และมีความเห็นอกเห็นใจ ระหว่างกัน”
OOOOO ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของไหล
OOOOO ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของเหลว ที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้นั้น, เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเอฟเฟกต์เคลื่อนไหวแบบไดนามิก
เธอจึงจัดเป็นความท้าทายทางเทคนิค และทางศิลปะ ที่ไม่เคยมีมาก่อน
OOOOO ถูกอธิบายว่าเป็นมีดพับสวิส ที่ทำจากหยดน้ำ ซึ่งเคลื่อนที่ในอวกาศ โดยมีวงจรเคลื่อนที่ได้อยู่ภายใน
ความลื่นไหล อย่างมีเสน่ห์นี้ คือผลลัพธ์จากการทดสอบภาพ แบบ 2 มิติ
“เธอเป็นตัวละครที่ยืดหยุ่น” ทราวิส แฮธาเวย์ หัวหน้าฝ่ายแอนิเมชั่นกล่าวกับ IndieWire
“เธอสามารถเป็นหน้าจอ เปลี่ยนเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียง เปลี่ยนเป็นโปรเจ็กเตอร์ (เครื่องฉายภาพ), หรือแปลงเป็นปากกา ให้เอลิโอใช้เขียนได้
เราใช้ประโยชน์จากเทคนิค การสร้างโครงหน้า, และแอนิเมชั่นบางอย่าง ที่เราเรียนรู้จาก 'Win or Lose' (มินิซีรีส์)
คุณสามารถ แยกงานทำ แล้วนำมาปะรวมกันได้ ในเวลาเรนเดอร์ (ประมวลผล)”
จากคุณแม่โอลก้า สู่ป้าโอลก้า
ผู้กำกับชาราเฟียนและชิ ต้องการทำให้แรงจูงใจของเอลิโอ (ที่ต้องการถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว) ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
จึงหมายถึง ต้องเพิ่มความหนักหน่วง ให้กับความเหงา, และทำให้เขา น่าเห็นใจมากขึ้น
มันเลยนำไปสู่ การเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นเด็กกำพร้า, อีกทั้งเปลี่ยนโอลก้า จากแม่เป็นป้า
“เมื่อรู้ว่าเอลิโอจะต้องตัดสินใจ ว่าเขาต้องการอยู่ที่ไหน, ความสัมพันธ์เชิงแม่ลูก ดูจะเล่นได้ยากกว่า” ชาราเฟียนกล่าว
“บางทีพวกเขาอาจทะเลาะกัน แล้วก็เดินหนีไป, แต่สุดท้ายแล้ว ผู้ชมก็ยังเชื่อมั่นในใจ ว่าพวกเขาจะกลับมาคืนดีกัน
แต่ความสัมพันธ์แบบป้ากับหลานนั้น ไม่แน่นอนเท่า, มีโอกาสที่พวกเขาจะตัดขาดกัน และสูญเสียสายสัมพันธ์ไปตลอดกาล
ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นกับผู้ชม เมื่อได้เห็นตัวละครทั้งสอง ยากจะต่อติด, ช่วยให้คุณรู้สึก อยากเชียร์พวกเขาจริง ๆ ง่ายขึ้น, เพิ่มความลุ้นตามได้มาก”
“และฉันรู้สึกว่าตัวเอง มีความผูกพันกับโอลกาในฐานะป้า เยอะกว่า” ชิเสริม
“จู่ ๆ เธอก็ต้องแบก ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่นี้ และเธอก็พยายามอย่างเต็มที่
แต่เธอไม่ได้เตรียมตัวไว้ และต้องดิ้นรนจัดการกับมัน ทีละวัน
มันน่าเห็นใจนัก เพราะเธอเองก็ประสบ กับความสูญเสียมาเช่นกัน”
COMMENTS