ย้อนกลับไปทศวรรษ 1970s ผู้กำกับหนุ่มชื่อจอร์จ มิลเลอร์ ร่วมกับหุ้นส่วนผู้อำนวยการสร้างของเขา ไบรอน เคนเนดี้ ผลิตภาพยนตร์แนวไซไฟ ทุนต่ำ เกี่ย...
ย้อนกลับไปทศวรรษ 1970s ผู้กำกับหนุ่มชื่อจอร์จ มิลเลอร์ ร่วมกับหุ้นส่วนผู้อำนวยการสร้างของเขา ไบรอน เคนเนดี้
ผลิตภาพยนตร์แนวไซไฟ ทุนต่ำ เกี่ยวกับโลกยุคล่มสลาย, ณ ออสเตรเลีย ประเทศบ้านเกิดของพวกเขา
Mad Max นำแสดงโดยบุรุษหน้าตาดี ที่เวลานั้นชื่อ ไม่ดังลั่น, อย่างนายเมล กิ๊บสัน
มันนำเสนอด้านที่รุนแรง น่ารังเกียจ ของมนุษย์, เมื่อกฎหมายไร้ประโยชน์ สำหรับสังคม ในอนาคต
ไม่มีใครคาดคิดว่า หนังอินดี้ที่ตำรวจ ดันฆ่าล้างแค้นศัตรู, จะกลายเป็นอีก 1 ในหมู่แฟรนไชส์ ที่ผู้คนรู้จัก
ได้คลอดภาค 2-3 อย่างทิ้งห่าง ไม่นานเกิน, คืนชีพมามีภาค 4 หลายสิบปีให้หลัง, และกำลังจะมีภาคแยก ปล่อยฉาย ณ ค.ศ. 2024
เรียกว่าพอรู้ตัวอีกที มันคืออีกหนึ่งมหากาพย์, อันมีประวัติของตัวเอง ให้ขุดคุ้ยเรียบร้อย
โดยบทความนี้ ขอเอามาแฉ, แค่ภาค 1-3 (1979, 1981, 1985) ก่อน
อนาคตอันใกล้ (ในจินตนาการของ คนทำหนังปี 1979)
สำหรับคนรุ่นที่รู้จัก Mad Max โดยเริ่มตรงภาค 4 (Fury Road) ย่อมแปลกใจเมื่อลองขุดหา ภาค 1 มาดู
เพราะโลกยังไม่ล่มสลาย (เสียทั้งหมดทีเดียว) ภูมิทัศน์ของออสเตรเลีย ยังคงสวยงาม
บางจุด ปรายตามองแล้วเจอ พืชพรรณเขียวขจี, และสังคมของเรา ไม่ถึงขั้นพินาศ (แต่ว่าก็ ผุพัง)
ทั่วโลกเกิด วิกฤติด้านน้ำมัน, การก่ออาชญากรรม เพิ่มทวีคูณ เนื่องจากขาดแคลนพลังงาน
มีการก่อความรุนแรง เพื่อปล้นเงิน และแย่งชิงน้ำมัน, ทั่วท้องถนน ทุกหัวระแหง
ก่อนสถานการณ์บานปลาย พวกนักเลง ที่รวมตัวกันตั้งแก๊ง ยิ่งได้ใจ, ถึงขั้นไล่ล่า และฆ่าผู้อื่น เพื่อความสนุก
ดูเหมือนสิ่งเดียว ที่อาจจะพอหยุด คนพวกนั้นได้, เหลือเพียง
หน่วยลาดตระเวนหลัก (Main Force Patrol) ของกรมตำรวจทางหลวง
เหล่าเจ้าหน้าที่ MFP ซึ่งสวมชุดหนัง (อันเท่ล้ำ นำแฟชั่น ?) ต่างเพียรพยายามกัน อย่างดีที่สุด
แต่ลงท้ายก็ตก เป็นเป้าหมาย ของพวกอาชญากร, เองซะได้
Mad Max (1979)
แม็กซ์ ร็อคคาแทนสกี้ (เมล กิบสัน) คือตำรวจทางหลวง ผู้ถนัดด้านปราบผู้ร้าย ที่ซิ่งแบบเร็วแรงทะลุนรก
ถึงกระนั้น เขาก็เหนื่อยหน่าย, กับสภาพที่ต้อง ไล่จับคนร้าย อย่างไม่รู้จบ
วันหนึ่งกูส (เพื่อนร่วมงาน) ยังโดนแก๊ง อนารยชน, ย่างสดสังหาร
แม็กซ์จึงถึง จุดแตกหัก อยากลาออกจากงาน, แต่หัวหน้ารั้งไว้ ด้วยการชวนให้จบ แค่ลาพักร้อนก่อน
โชคร้าย ภรรยากับลูกชาย ที่ยังเล็ก, ตกเป็นเหยื่อ ของแก๊งคลั่ง เช่นกัน
ความเป็นมนุษย์ ผู้มีอารยะ ของแม็กซ์, เลยหมดสิ้นลง
เขานำรถยนต์ รุ่นใหม่และเร็วสุด ของ MFP, ที่ใช้เครื่องยนต์วี 8
กวาดล้างแก๊งของ ไอ้โทคัตเตอร์ (Toecutter), แก้แค้นพวกมัน อย่างสาสม
ก่อนขับรถจากไป แบบเงียบ ๆ, ทิ้งทั้งงานตำรวจ และสังคมมนุษย์ ไว้เบื้องหลัง
ทุกสิ่งทุกอย่าง แย่ลง
คงดีแล้วที่แม็กซ์ ละทิ้งทุกสิ่ง, เพราะดูเหมือน หลังจากนั้น เพียงไม่นาน
สงครามนิวเคลียร์บังเกิด, รัฐบาลถึงขั้น ล่มสลาย, อารยธรรมศิวิไลซ์ ได้สิ้นสุด
ไม่เหลือ ผู้พิทักษ์กฎหมาย, ระบบสาธารณูปโภค มลายเกลี้ยง
สิ่งที่กินได้ แทบไม่มีให้หา, ชาวบ้านธรรมดา แค่มีปัญญา รักษาครอบครัวไว้
หรือสร้างชุมชนเล็ก ๆ พึ่งพากันเองได้ ขึ้นมา, ก็จัดว่าเก่งมากละ
เพราะงั้นกลุ่มโจร ที่ปล้นชิงน้ำมัน สรรหารถแรง ๆ มาใช้ได้, จึงน่ากลัวยิ่ง
นี่คือโลกที่ เข้าสู่ภาวะ คนแข็งแกร่ง บดขยี้ผู้อ่อนแอ, อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
พวกเจ้าถนน ทำตัววางเขื่อง, เหมือนตัวเอง เป็นเจ้าโลก
Mad Max 2: The Road Warrior (1981)
5 ปีหลังเหตุการณ์ใน Mad Max, แม็กซ์ ร็อคคาแทนสกี้ ยังโลดแล่นบนท้องถนน พร้อมเครื่องยนต์วีแปด
แม้สภาพดูโทรมขึ้น แต่งวดนี้คือมี สุนัขคู่ใจ, เป็นตัวช่วยหา เชื้อเพลิงกับอาหาร
เขาบังเอิญไปยุ่งกับ พวกสิงห์มอเตอร์ไซค์ ที่นำโดยชายชื่อเวซ ผู้น่าขนลุก
จากนั้นก็ได้พบ คนประหลาดที่ขับ ไจโรคอปเตอร์ (เฮลิคอปเตอร์เล็ก) และเป็นมิตรกว่า
กัปตันไจโร (คนขับคอปเตอร์) นำทางแม็กซ์ สู่แหล่งเชื้อเพลิง (โรงกลั่นน้ำมัน)
อันอยู่ภายใต้ การครอบครองของ กองโจรขนาดใหญ่, ที่ไอ้เวซอยู่ใต้สังกัดอีกที
และมีชายสวมหน้ากาก ชื่อฮิวมังกัส เป็นขาใหญ่ตัวจริง ของที่นั่น
อย่างไรซะ การชิงเชื้อเพลิง ซึ่งพวกนั้นมี, ออกจะยากเกินเหตุ
แม็กซ์เลยต้อง เบนเข็มทางเลือก, สู่การเข้าหา ชุมชนรักสันติ ที่อยู่ใกล้ ๆ แทน
แต่แล้วฮิวมังกัส ก็โผล่ไปข่มขู่, ให้ชุมชนยอมทิ้ง น้ำมันที่พวกเขา เก็บสะสม
หากไม่ปล่อย ฝั่งผู้แข็งแกร่งแบบเค้า เอาไปเฉย ๆ, จะฆ่าให้หมด
ฝ่ายชุมชน ขืนอพยพแบบ ไร้เชื้อเพลิงใช้, มีหวังตายคาถนน ภายหลังเปล่า ๆ
แม็กซ์จึงอาสา รับงานเสี่ยงภัย, ขับรถบรรทุกน้ำมัน (เปล่า) เป็นเป้าล่อให้
ศึกใหญ่ดุเดือด เกิดขึ้น, ฮิวมังกัส กับไอ้เวซ และพรรคพวก ถึงแก่กรรมเพียบ
เรียกว่าถึงแม็กซ์ คิดเพียงเอาตัวรอด ในทีแรก (แค่อยากได้เชื้อเพลิง)
แถมสูญเสีย เจ้าตูบผู้ภักดี, ระหว่างการต่อสู้
แต่ลงท้าย เขาทุ่มสุดตัว เพื่อช่วยเหลือคนแปลกหน้า
และกลายเป็นตำนาน (เรื่องเล่า) ของกลุ่มผู้รอดชีวิต จากชุมชนดังกล่าว
Mad Max Beyond Thunderdome (1985)
15 ปีต่อมา, แม็กซ์เร่ร่อนอยู่ ท่ามกลางออสเตรเลีย ที่กลายเป็นทะเลทราย
เขาถูกโจร ขโมยเสบียง, และตามเข้าเมืองบาร์เตอร์ (Bartertown) เพื่อทวงคืนของ
เมืองบาร์เตอร์ ใช้ขี้หมู ผลิตไฟฟ้า, และอยู่ใต้การปกครอง ของผู้นำหญิงชื่อ เอนทิตี้ (Entity)
มันถือว่า ดูเจริญใกล้เคียง กับความศิวิไลซ์ดั้งเดิม อันเคยดำรงอยู่ บนโลกใบนี้, มากสุด
ด้วยมีกฎว่า ผู้เข้าเมืองต้องจ่าย บางสิ่งแลกเปลี่ยนเสมอ
เอนทิตี้ที่เห็น ว่าแม็กซ์มีฝีมือ, จึงสั่งพระเอก ลงประลองใน สังเวียนธันเดอร์โดม
โดยหลอกว่า ชายตัวใหญ่ที่เขา ต้องสังหาร ระหว่างการประลอง, สมควรตาย
ทั้งที่ในความจริง ชายตัวใหญ่, จิตใจบริสุทธิ์ เหมือนเด็ก
และเอนทิตี้ อยากให้ตายเพราะ, หมอนั่นคือผู้คุ้มกัน ของคน ๆ เดียวที่รู้ วิธีผลิตไฟฟ้า
เอนทิตี้ที่กะว่า หลังจากนี้ คนผลิตไฟ, จะได้แต่ทำงานงก ๆ แบบเชื่อฟังทุกอย่าง
ต้องผิดหวังเมื่อ แม็กซ์มองทะลุ คำโกหก
อย่างไรซะ แผนเธอแค่ เปลี่ยนรายละเอียด, เพราะชายตัวใหญ่ ที่อ่อนแอลง หลังสู้แม็กซ์ ยังโดนฆ่า
มิหนำซ้ำ พระเอกเราถูกเนรเทศ สู่ทะเลทรายเวิ้งว้าง, แบบไร้น้ำ ไร้เครื่องมือ สำหรับการเอาตัวรอด
เคราะห์ดีแม็กซ์เจอ ชุมชนใกล้โอเอซิส (แหล่งน้ำ) ที่มีแต่เด็ก ๆ
เขาผูกมิตร กับพวกเด็ก, แล้วยกโขยง กันเยือน เมืองบาร์เตอร์
ช่วยเหลือ คนผลิตไฟ, จากการจองจำ อันอยุติธรรม
เอนทิตี้นำ กองกำลังส่วนตัว ออกไล่ล่า, แต่สุดท้าย เมื่อเห็นแม็กซ์ ยอมเสียสละ เพื่อให้พรรคพวก หนีสำเร็จ
หล่อนแสดงน้ำใจ นักกีฬา, ปล่อยแม็กซ์ไว้เฉย ๆ แล้วจากไปโดยดี
พวกเด็ก ๆ จึงได้มีโอกาส ฟื้นฟูอารยธรรมมนุษย์ใหม่ แถวซากเมืองซิดนีย์
ที่มา: looper
COMMENTS