3 ปีหลังเหตุวิกฤติ ที่บ้านนอก (เมืองซัมเมอร์วิลล์), แคลลี่ สแปงเลอร์ กับแฟนชื่อ แกรี่ กรูเบอร์สัน ร่วมกันกับ ลูกชายวัย 18 (เทรเวอร์) และลูกส...
3 ปีหลังเหตุวิกฤติ ที่บ้านนอก (เมืองซัมเมอร์วิลล์), แคลลี่ สแปงเลอร์ กับแฟนชื่อ แกรี่ กรูเบอร์สัน
ร่วมกันกับ ลูกชายวัย 18 (เทรเวอร์) และลูกสาววัย 15 (ฟีบี้), ใช้สถานีดับเพลิงเก่า เป็นบ้านใหม่
ออกปฏิบัติงานปราบผี สไตล์เดียวกับทีมดั้งเดิม (ในยุคค.ศ. 80s) ณ มหานครนิวยอร์ก
เพราะอดีตนักกำจัดผี เศรษฐีใจบุญ (วินสตัน เซดเดมอร์) ช่วยออกทุนเพื่อ เปิดกิจการใหม่
กิจการกำราบวิญญาณ ในยุค 2020s, คำนึงถึงอนาคต และครบวงจร ผิดจากเมื่อก่อน
เพราะคลังเก็บผี แถวสถานีดับเพลิง ใกล้บรรจุเต็ม อยู่รอมร่อ
วินสตันถึงซื้อ อควาเรียม (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ) ร้าง, มาปรับเปลี่ยน เป็นคลังเก็บผีใหม่ (ขนาดใหญ่กว่าเก่าจม)
และจัดตั้งศูนย์วิจัย อุบัติการณ์เหนือธรรมชาติ ขึ้นที่นั่น
เพื่อศึกษา หาองค์ความรู้ เกี่ยวกับวิญญาณ ปรากฏการณ์ลี้ลับ, ให้มากขึ้นด้วย
ลัคกี้ โดมิงโก้ (สาวที่เทรเวอร์ พยายามจีบ) ทำงานใน ศูนย์วิจัยดังกล่าว
ร่วมกับหนุ่มแว่น "ลาร์ส พินฟิลด์" (Lars Pinfield) นักชีวะวิญญาณ ของวินสตัน
โดยวัตถุดิบวิจัย, ได้ฝั่งเจ้าของร้านหนังสือ (เรย์) กับผู้ช่วย (เด็กชายพอดแคสต์) คอยจัดหามาป้อน
เพราะเรย์ ให้เด็กช่วย ประกาศออนไลน์, ว่าที่ร้านเขารับซื้อ วัตถุอันมีพลังงานลึกลับสถิต
แต่เนื่องจาก การปราบผี สไตล์โกสต์บัสเตอร์, มักก่อความเสียหาย ต่ออาคารบ้านเรือน
นายกเทศมนตรี วอลเตอร์ เป็ก (Walter Peck) ที่เคยเป็นเจ้าพนักงานชาย ของหน่วยคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
และไม้เบื่อไม้เมา ของทีมโกสต์บัสเตอร์ยุคเก่า, จึงคอยจ้องเล่นงาน
แล้วก็สบช่อง เมื่อตระหนักว่า ฟีบี้ยังเป็นผู้เยาว์
เขาขู่จะปิดกิจการ หากบริษัทกำจัดผี, ไม่เลิกใช้ แรงงานเด็ก ผิดกฎหมาย
ฟีบี้ผู้เชื่อว่า ตนเกิดมาเพื่องาน สายโกสต์บัสเตอร์, ถูกครอบครัวสั่งพักงาน
เธอพยายามควบคุมอารมณ์ โดยออกไปนั่งเล่นหมากรุก คนเดียว, กลางสวนสาธารณะยามค่ำ
ก่อนจะได้เพื่อน ประชันหมาก, เป็นวิญญาณสาววัยรุ่น ผู้ถูกไฟคลอกตาย ชื่อ "เมโลดี้" ที่ไม่อาจไปสู่สุคติ ด้วยตนเองได้
ขณะเดียวกัน บุรุษนาม "นาดีม ราซมาดี" (Nadeem Razmaadi) ที่ดูไม่ใช่คน ประเภทได้เรื่องเท่าไหร่
เอาลูกกลมทองเหลือง ซึ่งเป็นมรดกตกทอด จากรุ่นสู่รุ่น ของคุณย่าที่ตายไป, มาขายเรย์ สแตนซ์
ค่าพลังกระแสจิตเคลื่อนไหว ของวัตถุ, สูงจนทำ เครื่องตรวจเจ๊ง
และมันถูกส่งต่อ สู่ศูนย์วิจัย ในอควาเรียมเก่า
ดร.ลาร์ส พินฟิลด์ พยายามสกัดวิญญาณ แยกออกจากวัตถุ, แต่ไม่เป็นผล
มิหนำซ้ำมัน แผ่ความเย็น ระดับที่อันตราย, เกินจะมองข้าม
เขาจึงไปตามนาดีม มาตรวจสอบประวัติ, พร้อมขอความช่วยเหลือ เพิ่มเติมจาก 'ปีเตอร์ เวงค์แมน'
จนทราบว่า ชายคนนี้มีพลังพิเศษ ในการควบคุมเปลวเพลิง
อีกด้านหนึ่ง เรย์พร้อมฟีบี้ กะพอดแคสต์, แว่บไปหา นักค้นคว้าเรื่องเหนือธรรมชาติ ณ ห้องสมุดประจำเมือง
แล้วได้ทราบเรื่อง ตำนานเกี่ยวกับ ลูกกลมผนึก, พญาเทพปีศาจ ชื่อการาก้า (Garraka)
ซึ่งเคยพยายาม, ใช้พลังบงการจิต สั่งกองทัพวิญญาณ
ร่วมกับพลังเยือกแข็ง ของมัน (อันสร้างความกลัว แก่ผู้คน และแปรเปลี่ยนเป็นพลังงาน) เพื่อพิชิตโลกมนุษย์
แต่การาก้า ก็โดนมนุษย์ ที่มีพลังควบคุมไฟ (อารมณ์โกสต์บัสเตอร์ ของยุคโบราณ) สยบ
การาก้าถูก "ผู้บัญชาไฟ" จับใส่คุกพลังเวท, อันเป็นลูกทองเหลือง
เดิมทีหน้าที่ คุ้มกันผนึก, ได้รับการส่งต่อ จากรุ่นสู่รุ่น
แต่พอมาถึง รุ่นของนาดีม, ทั้งความสำคัญของลูกกลม และพรสวรรค์ตามสายเลือด (ด้านบัญชาไฟ) ได้ถูกหลงลืม ตามกาลเวลา
จากนั้นฟีบี้ โดนเมโลดี้ ล่อลวง, เพื่อเปิดผนึก ซึ่งกักขังการาก้า
เพราะการาก้าหลอกว่า เมื่อข้าเป็นอิสระ จะเปิดประตูมิติ, แล้วเจ้าจะไปสู่สุคติ ผ่านประตูนั่นได้
การาก้าที่ออกมา จากศูนย์วิจัย, สร้างมหันตภัยเมืองเยือกแข็ง กลางฤดูร้อน
และมุ่งเป้าจะปลดปล่อย ผีจำนวนมหาศาล จากคลังเก็บวิญญาณ ในสถานีดับเพลิงเก่า, เอามาทำกองทัพลิ่วล้อ
ผู้เกี่ยวข้องกับโกสต์บัสเตอร์ ทั้งยุคใหม่แลเก่า, รวมพลที่ ศูนย์บัญชาการเก่า เพื่อปกป้องคลัง จากการาก้า
แต่ก็ยังขวาง การปล่อยผีจากคลัง โดยพญาเทพมาร, ไม่สำเร็จ
จนกระทั่งฟีบี้ ใช้ปืนจับผี ที่เปลี่ยนขดลวดข้างใน เป็นทองเหลือง (ซึ่งการาก้าแพ้ทาง)
เมโลดี้กลับใจช่วย, นาดีมปลุกพรสวรรค์ ให้ลืมตาตื่นเต็มขั้น, และเรย์นึกออกว่า
ใช้คลังเก็บผี ที่สถานีดับเพลิงเก่า (ซึ่งเพิ่งมี ที่ว่าง เพิ่มมาเพียบ), จับเทพโบราณ จากต่างมิตินี่ ยัดเข้าไปได้
เมโลดี้ปรับความเข้าใจ กับฟีบี้, แล้วไปสู่สุคติ
ชาวเมืองอันรอดผ่าน หายนะน้ำแข็ง (และไม่ทราบต้นสายปลายเหตุ ของเรื่องทั้งหมด), พากันส่งเสียงแซ่ซ้อง โกสต์บัสเตอร์
นายกเทศมนตรี เลยโดนบีบให้ยอม, ปล่อยโกสต์บัสเตอร์ เปิดกิจการต่อตามสบาย
และอนุญาตให้ฟีบี้ ได้ทำงานกำจัดผี, แม้ยังเป็นผู้เยาว์อยู่
ท่ามกลางช่วงเวลาที่ มีวิญญาณจากคลังเก็บเก่า จำนวนมาก, ยังหลุดออกมาเพ่นพ่าน
COMMENTS