# เรื่องราวอย่างสรุป # ของ Mission: Impossible – Dead Reckoning Part 1

เพื่อพิชิตภารกิจเป็นไปไม่ได้ รอบที่ 7, อีธาน ฮันท์ (ทอม ครูซ) กลับมาโลดโผนเสี่ยงตาย ให้สาแก่ใจคนดูอีกครั้ง ในหนังชื่อยาววุ้ย, อย่าง Mission:...

เพื่อพิชิตภารกิจเป็นไปไม่ได้ รอบที่ 7, อีธาน ฮันท์ (ทอม ครูซ) กลับมาโลดโผนเสี่ยงตาย ให้สาแก่ใจคนดูอีกครั้ง

ในหนังชื่อยาววุ้ย, อย่าง Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One (มิชชั่น อิมพอสซิเบิล ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่หนึ่ง)

แม้ระหว่างขั้นตอนผลิต ประสบปัญหา สารพัดสารเพ

เช่น ไวรัสวายร้ายพ่นพิษใส่ จนต้องปิดกองกะทันหัน, บันทึกเสียงทอม ตะโกนต่อว่าทีมงาน (ที่ละเลยมาตรการป้องกันโควิด) หลุดออนไลน์,

หาสะพานรถไฟ สำหรับถ่ายฉากใหญ่ยาก, งบสร้างบานปลาย จนปาไป 290 ล้านดอลลาร์ (ก่อนหน้า ไม่เคยถึง 200 ล้าน)

สำหรับเนื้อหา เพื่อลดความซับซ้อนสับสน จึงจะไม่เล่าทุกสิ่ง, ตามลำดับการนำเสนอของภาพยนตร์

เรามาตั้งต้นกันตรงที่ มีการลำเลิกความหลัง, ซึ่งยังไม่ได้รับการอธิบาย ให้กระจ่างชัด

ว่าอีธาน ฮันท์, เคยตกใต้สถานะ ชีวิตไร้หนทางไปต่อ เมื่อราว 30 ปีก่อน

อดีตตรงนั้นของเขา เกี่ยวข้องกะบุรุษลึกลับ อันถูกขนานนาม (ตามชื่อทูตสวรรค์บางศาสนา) ว่า "เกเบรียล"

แต่อีธานก็ได้รับ การเสนอ "ทางเลือก" ให้, ว่าจะจำนน ต่อชะตากรรมไหม ?

ถ้าไม่, จง "ยอมรับ" ภารกิจ ที่ไอเอ็มเอฟ (Impossible Mission Force) เสนอ

กลายเป็นคนที่ อยู่อย่างผี, และส่วนหนึ่งขององค์กร โคตรจะลับ ซึ่งขึ้นตรงต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ

และเพราะลักษณะองค์กร กะภารกิจ, ทั้งเสี่ยงทั้งยาก เกินมาตรฐาน หน่วยข่าวกรองเจ้าอื่น 

หลายคนจึงถือว่า ชีวิตของเพื่อนร่วมทีม (ร่วมเป็นตายด้วยกัน) สำคัญยิ่งกว่าของตัวเอง

ทีนี้ย้อนกลับมาตรง เนื้อหาล่าพิกัดมรณะ (บทแรก), โดย DNI หรือผู้อำนวยการ หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence)

คือตัวตั้งตัวตี, เกี่ยวกับโครงการผลิต ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) สุดล้ำรุ่นใหม่

มันออกแบบมา ให้ก่อวินาศกรรม แก่ระบบดิจิตอลใดๆ ได้ทุกสิ่ง

และถูกทดลองใช้จริง ใส่เรือดำน้ำรัสเซีย ชื่อเซวาสโตพอล (Sevastopol) 

อันมีระบบพรางตัวชั้นสูง, และแกร่วอยู่แถว ขั้วโลกเหนือ

เดนลินเจอร์ (Denlinger) หรือก็คือบุรุษ ผู้ดำรงตำแหน่ง DNI

กะว่าเอไอรุ่นใหม่ จะปิดระบบอำพราง ของเรือดำน้ำชาติอื่น, โดยง่าย

และมันเป็นเช่นนั้น จริงแหละ, แต่ปรากฏว่าเอไอ ดันทำเกินคำสั่ง

ถือวิสาสะไปจม เซวาสโตพอลให้ด้วย, เฉยเลยจ้ะ

เดนลินเจอร์

เอไอหลุด จากการควบคุมไม่พอ, มันวิวัฒน์ตัวเองต่อ 

จนเสมือนกลายเป็น สิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบ และถูกเรียกว่าเอนทิตี (Entity)

เอนทิตีมีความตื่นรู้ แลระบบประมวลผล ขั้นสุดยอด

หากมันต้องการ จะบิดเบือนข้อมูลดิจิตอล เพื่อบงการคนทั้งโลก โดยไม่รู้ตัว, ก็ทำได้

แถมพยากรณ์อนาคตล่วงหน้า (ผ่านการคำนวณข้อมูล) ได้อย่างแม่นยำ ยิ่งกว่าหมอดูซะอีก

เอนทิตีคือเอไอ ที่เตลิดสู่โลกออนไลน์, ดังนั้นต่อให้หาพิกัด เจอว่ามันอยู่ไหน ก็ไม่อาจควบคุมหรือทำลาย

หากต้องการ ย้อนเกล็ดเจ้านี่ แล้วสัมฤทธิ์ผล, มีแต่ต้องใช้ซอร์สโค้ด (Source code) ดั้งเดิมประกอบ

ก็เหมือนที่การตามหา ผู้ติดเชื้อรายแรก ของโรคระบาด, อาจนำมาซึ่งวิธีรักษา

เอนทิตีจะหมดท่า เมื่อหาเจอว่าซอร์สโค้ด ของโปรแกรมรุ่นต้นแบบ, อยู่แห่งหนใด

โปรแกรมต้นแบบ ของเอนทิตี้, สถิตกลางระบบคอมพิวเตอร์ ในซากเรือดำน้ำ ใต้มหาสมุทร

แต่ "กุญแจ" ปลดล็อค เปิดระบบดังกล่าว กลับหลุดสู่มือของ พวกมนุษย์, ผู้ยังมีลมหายใจ

คาดว่าคงเพราะ เก็บกู้ได้จาก, ศพของพวกลูกเรือ (เซวาสโตพอล) ซึ่งลอยขึ้นเหนือวารี นั่นแหละ

เท่านั้นไม่พอ กุญแจดันโดนแบ่ง, ออกเป็น 2 ชิ้นซะด้วย

เพราะความเทพ ของเอไอนอกคอก, บรรดาขั้วอำนาจหลักของโลก (เช่น องค์กรสายลับต่าง ๆ) จึงวิ่งเต้นกันยกใหญ่

แสวงหาวิธี เลี่ยงการโดนเจาะข้อมูล (เช่น ขุดดาวเทียมปลดระวาง กลับมาใช้, ลบบันทึกดิจิตอลทิ้ง แล้วจดใส่กระดาษ) 

แต่หลักๆ ที่อยากทำกันจริงๆ คือ "ควบคุม" เจ้าเอนทิตีให้ได้

ศึกแย่งกุญแจ (แบบสมบูรณ์ รวมครบ 2 ส่วน) จึงบังเกิด

ฟากเอนทิตี ถึงเปล่ามีร่างหุ่นยนต์ เหมือนหลุดจากหนังไซไฟ

แต่มันก็เคลื่อนไหว เพื่อจะไม่ต้องตกใต้อาณัติ ของมนุษยชาติได้

ผ่านการหา มนุษย์ที่ยินยอมมา เป็น 'ผู้รับใช้' 

(ถึงจริงๆ น่าจะเรียก ลูกจ้างมากกว่า, เอนทิตีเอา เงินคริปโตฟาดหัว ไรงี้)

และคนที่มันเลือก ให้เป็น 'ผู้ส่งสาร' หลักคือ "เกเบรียล" ครับท่าน

แต่ถึงเหล่าระดับบิ๊ก ของหน่วยข่าวกรอง อยากครอบงำเอนทิตี

ก็มีสมาชิกชั้นผู้น้อย ซึ่งมองว่าปัญญาประดิษฐ์ อันตรายเกินปล่อยไว้

เช่น สหายบางคนของ 'อิลซา เฟาส์ท' ในเอ็มไอซิกซ์

พวกนี้จึงร้องขอ ให้มิตรผู้ถอนตัว จาก MI6 แล้ว, ออกเคลื่อนไหว

อิลซ่าครอง กุญแจครึ่งนึงสำเร็จ เพราะข้อมูลเพื่อน, และกบดานแถว ทะเลทรายอาหรับ

ฉะนั้น อดีตผู้นำไอเอ็มเอฟ 'ยูจีน คิตทริดจ์' จึงตั้งค่าหัวอิลซา

และส่งภารกิจ ชิงกุญแจให้อีธาน (แบบไม่บอกเรื่อง เรือดำน้ำ เผื่อไว้)

เนื่องจากมองว่า ถ้าแฟนโดนคนล่าเยอะๆ ลำบากหนัก

อีธานคงยอม ส่งกุญแจสู่ต้นสังกัด (ไอเอ็มเอฟ) ให้ทุกอย่างมันจบ ๆ

แต่อีธานผู้ชอบ ทำตัวขบถ ต่อองค์กรตัวเองเนืองๆ ยังคงเลือกทำแบบเดิม (ตามที่คิตทริดจ์แอบกลัว)

เขามองว่าเอนทิตี คือเครื่องจักรมรณะมีชีวิต อันสมควรโดนฆ่า

อีธานไม่ยอม ส่งชิ้นส่วนกุญแจ แก่คิตทริดจ์

เขาขอให้แฟน แกล้งตายสักพัก, แล้วพยายาม ตามหากุญแจอีกครึ่ง

โดยพึ่งเพื่อนชื่อ ลูเธอร์ กะเบนจี้, เหมือนเช่นเคย

3 เกลอกะชิง กุญแจครึ่งที่เหลือ จากผู้ถือครอง, ณ สนามบินอาบูดาบี

อีธานรับมือ คนของหน่วยข่าวกรองมะกัน ที่ออกล่าเขาไหว

แต่พลาดท่าให้ การใช้ระเบิด (ปลอม) กับ 'เกเบรียล' เพื่อเบนความสนใจ, โดยเอนทิตี

"เกรซ" โจรหญิงมืออาชีพ จึงฉวยโอกาส ฉกกุญแจครึ่งของอีธาน, หนีไปได้

เกรซถูกจ้าง โดยแม่หม้ายขาว (นักค้าอาวุธ) เจ้าเก่า, แต่ผ่านการติดต่อ เชิงปิดบังตัวตน

หล่อนมุ่งสู่โรม เพื่อส่งมอบกุญแจ, แบบไม่ทราบว่า กำลังยุ่งกับเรื่องใหญ่ขนาดไหน 

และจะโดนหลายฝ่าย ตามรุมทึ้ง หนักเพียงไร

อีธานที่ รีบตามหล่อนมาคนเดียว ต้องลุยเดี่ยว ใส่สุดเกียร์

ช่วยเธอจาก ทั้งผู้รับใช้ของเอนทิตี และคนของมะกัน

แต่ถึงพาขึ้นรถ ขับหนีการไล่ล่าอันยาว, โจรหญิงก็ยังคง ไม่เชื่อใจเขา

เบนจี้, ลูเธอร์, อิลซ่า ตามมาสบทบ และกำหนดแผนขั้นต่อไปว่า 

จะแทรกซึมเข้าสู่ งานเลี้ยงของแม่หม้ายขาว, เพื่อสืบว่า 'ผู้ซื้อ' ที่พร้อมเปย์นักค้าอาวุธ แลกกุญแจ คือผู้ใด

ที่นั่น, อีธานเข้าพบแม่หม้ายขาว ลองกล่อมให้ ส่งกุญแจแก่เขา, แทนการขายออกไป แล้วโลกอาจเจอมหันตภัย

แต่เกเบรียล ดันโน้มน้าว นักค้าอาวุธให้ไม่ทำ, แถมโม้ข่ม ใส่อีธานว่า 

เดี๋ยวอีกสักพัก ข้าจะฆ่าแฟนแก หรือไม่ก็เกรซ สำเร็จแน่, เพราะเอนทิตี 'พยากรณ์' เอาไว้เช่นนั้น

แล้วฝ่ายสนับสนุน ทีมพระเอก (เบนจี้กับลูเธอร์) ก็เสียท่าแก่, การเจาะข้อมูลออนไลน์ ของเอนทิตี

อีธานผู้ถูกเอนทิตีปั่นหัว, จึงมัวสู้กับปารีส (ผู้หญิง ที่เป็นผู้รับใช้เอนทิตีคนนึง) ขณะชีวิตเกรซและแฟน อยู่ในวิกฤติ

อีธานกำชัยเหนือปารีส แต่ไม่ฆ่าหล่อน, โทษฐานทำเสียเวลา

อย่างไรซะ เขายังคงช้าไป, 'อิลซา' โดนเกเบรียลสังหาร...

เกรซ ผู้สำเหนียกสักทีว่า ตนกำลังเผชิญอะไร, ยอมคุยดีๆ กับปาร์ตี้อีธาน

อีธานกล่อมให้เธอเชื่อว่า ถ้ายังฝืนเป็นโจรต่อ, จะมีแค่การตายไว หรือติดคุกขังลืมไป รออยู่

คุณควรยอมรับ "ทางเลือก" คือสมัครเข้าไอเอ็มเอฟ, เป็นการยื้อชีวิต ต่อชะตา

โดยฝากตัวกับ 'คิตทริดจ์' ซึ่งคือ 'ผู้ซื้อ' ของแม่หม้ายขาวซะ

แผนขั้นถัดไป ของทีมตัวเอก, คือให้เกรซ แปลงโฉมเป็นแม่หม้ายขาว

แทรกแซงการซื้อขาย, ชิงกุญแจฉบับสมบูรณ์ และติดต่อ ขอฝากตัวกับคุณคิตทริดจ์

การซื้อขายจะเกิดขึ้น บนขบวนรถ โอเรียนต์เอ็กซ์เพรส (รถไฟหรู ที่ยังใช้หัวจักรไอน้ำ)

โดยอีธาน (ที่ไม่มีหน้ากากปลอมตัวใช้ เพราะเครื่องผลิตดันเสีย กะทันหัน) 

จะตามขึ้นรถไฟ ไปทีหลัง, แล้วกระโดดร่มหนีออกมา พร้อมกุญแจอันสมบูรณ์ครบ

ทว่าเอนทิตี้ ทำนายเทพไว้หมด ก่อนละว่า

เดี๋ยวอีธาน ต้องใช้แผนโลดโผน เข้าออกขบวนรถ แบบไม่ปลอมตัว

'ปารีส' จะทรยศ (เพราะพระเอกไว้ชีวิต) 

และเดนลินเจอร์ (DNI) ซึ่งกลัวความผิด (เรื่องเรือดำน้ำ) จะปูด, ก็อยู่บนรถไฟนี่

เอนทิตี้จึงสั่งเกเบรียลฆ่า พวกคนที่คุมรถไฟ, ทำลายกลไก (เช่น เบรค) 

เพื่อให้ขบวนรถ ไม่อาจหยุดวิ่ง หรือชะลอความเร็ว

และสังหารทั้งปารีส กับเดนลินเจอร์...

แต่ถึงเดนลินเจอร์ จะตายจริง, ปารีสดันรอด

แถมอีธานยัง โชว์ลีลาระห่ำจัด เกินระดับเอไอคาด, จนตามไปสมทบ กะเกรซสำเร็จ

ปารีส

เกเบรียล เผ่นพ้นขบวนรถ ก่อนระเบิดสะพาน

เพื่อสังหารทุกคน ที่กล้าแหยมเอนทิตี้, บนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรสนี่

ทว่าอีธานกะเกรซ ทำการแยกหัวจักร ออกจากขบวนรถทัน, ผู้โดยสารอื่นจึงลี้ทัน

แถมปารีสยัง ปูดเรื่อง 'เรือดำน้ำ', ให้อีธานทราบด้วย

อีธานโดดร่มหนี คนของหน่วยข่าวกรองมะกัน, ออกนอกรถไฟพังๆ ไปพร้อมกุญแจอันสมบูรณ์

เขาว่าจะสมทบ กับหน่วยสนับสนุนคนเดียว ที่เหลือ (เบนจี้)

เพราะลูเธอร์กำลัง หายเข้ากลีบเมฆ, เพื่อค้นหาแหล่งสถิต ของเอนทิตี

โดยสืบแบบออฟไลน์ ผ่านการแกะร่องรอย อันหลงเหลือ (ในฮาร์ดไดรฟ์)

หลังถูกเอนทิตี้ แฮ็กเข้าคอมฯ, ในราตรีที่เอลซ่า ถึงฆาต