# รวมเรื่องควรรู้ # ก่อนดู Jurassic World Dominion

'คอลิน เทรวอโรว์' ผู้กำกับภาพยนตร์ Jurassic World 3 และช่วยกันพัฒนาบทกับเอมิลี่ คาร์ไมเคิล  บอกว่าหนังคือบทสรุปของเรื่องราวที่เริ่มต...

'คอลิน เทรวอโรว์' ผู้กำกับภาพยนตร์ Jurassic World 3 และช่วยกันพัฒนาบทกับเอมิลี่ คาร์ไมเคิล  บอกว่าหนังคือบทสรุปของเรื่องราวที่เริ่มต้นตั้งแต่สมัย Jurassic Park ภาคแรก

"เอมิลี่กับผมเรียกมันว่า 'Jurassic Park 6' เพราะฟังดูน่าสนุกและเป็นชื่อที่ใช่สำหรับพวกเรา  นี่คือบทสรุปของเนื้อเรื่องซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 25 ปีก่อน (ขณะสัมภาษณ์)

ผมคิดว่าแฟนๆ จะขนลุกตอนเห็นว่ามันเชื่อมโยงกับผลงานต้นฉบับมากแค่ไหน  

ผมรู้ Jurassic World ไม่ใช่หนังที่ดูเหมือนภาคต่อเท่าไหร่--ชื่อหนังเปลี่ยนเพราะอย่างนั้น--แต่มันใช่ และภาคนี้ก็ด้วย" 

ถ้าพูดถึงหนังไดโนเสาร์, ยังไงเราก็คงนึกถึง Jurassic แฟรนไชส์กันก่อนตลอด แม้ว่าความจริงออกจะมีอยู่เยอะแยะตาแป๊ะไก๋

หลังจากเปิดตัวสะเทือนวงการฮอลลีวูด ในปี 1993 และแผ่วไปตอนภาค 3 (ค.ศ. 2001)

ก็กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ใน Jurassic World (2015) แล้วกลายเป็นมหากาพย์

พร้อมปล่อยหนังสั้น & อนิเมชั่นภาคเสริม, ออกมาเติมเรื่องราว ตามสไตล์สื่อบันเทิงยุคหลัง

เพื่อต้อนรับการ "ทวงคืนอาณาจักร" ซึ่งยังไม่ชัด 100% ว่าตกลงคือจุดจบของเรื่องยาว

หรือแค่ปลายทางชั่วคราว ก่อนเดินทางสู่เขตแดนแห่งใหม่

แต่เอาเป็นว่ามาทบทวนทุกสิ่ง เกี่ยวกับจูราสสิคปาร์ค & เวิลด์

ที่น่าจะสมควรทราบไว้ (ตามทัศนะของผู้ผลิตบทความ) กันดีกว่า

**จากนี้สปอยล์ Jurassic แฟรนไชส์ ทั้งภาพยนตร์, หนังสั้น และอนิเมชั่น**

Jurassic World Dominion: Prologue

หนังสั้นยาว 5 นาที ที่เดิมทีผกก.อยากใช้เป็นฉากเปิดภาพยนตร์, ก่อนมีข่าวว่ามันจะไม่ปรากฏในโรงแล้วทีหลัง

นี่คือครั้งแรกของมหากาพย์ ที่พาผู้ชมทัวร์ดาวโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน

ช่วงหลายนาทีแรก คือสารคดีสัตว์ดึกดำบรรพ์, ซึ่งจบลงตรงการดวล ระหว่างไทแรนโนซอรัสเร็กซ์ กับกิกาโนโตซอรัส (Giganotosaurus)

ทีเร็กซ์เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ แต่เนื่องจากมันถูกยุงตัวบักเอ้กดูดโลหิต แล้ว (อย่างที่คุณเดาออก) คาดว่าเจ้าแมลงไปติดคาอำพัน

จึงมีโอกาสคืนชีพด้วยเทคโนโลยีพันธุวิศวกรรม และคงได้เปิดศึกนัดล้างตากับกิกาโนจัง ในหนัง

ก่อน Jurassic Park ภาคแรก

Jurassic World ภาค 2 (Fallen Kingdom) จะมีตัวละครสำคัญหนึ่ง ซึ่งชื่อ "เบนจามิน ล็อควู้ด" ปรากฏ

แล้วตัวละครก็อธิบายว่า เขาคือพันธมิตรหลักที่ช่วยผลักดันความฝันของ "จอห์น แฮมมอนด์" ให้เป็นจริง 

ก่อนแตกคอกันเพราะสนใจจะ พัฒนาเทคโนโลยีโคลนนิ่งมนุษย์ 

จึงไม่เคยถูกพูดถึง หรือมีบทในจักรวาล Jurassic มาก่อน

เทรวอโรว์ไม่ได้มโน เอาตัวละครใหม่ใส่ในหนังเอง แบบไร้ที่มาเสียทีเดียวเพราะ 

"มันมาจากหนังสือ (นิยายของไมเคิล ไครช์ตัน), แม้ในหนังสือจะไม่มีตัวละครนี้ 

แต่เมื่อเราย้อนมองนิยาย ซึ่งพวกตัวละครกล่าวถึงช่วงต้นๆ ที่นำลูกช้างซึ่งสูญพันธ์ุไปกลับมา  

ก็พาลพาให้นึกว่า 'เวลานั้นคงมีหุ้นส่วน และผู้เกี่ยวข้องกับโครงการที่ไม่ถูกพูดถึง อยู่อีกเพียบ' 

[ล็อควูด] คือหนึ่งในนั้น  มันรู้สึกคล้ายการทำหนังภาคต้นแต่ก็ไม่ใช่น่ะนะ  ยิ่งเราขุดคุ้ยลึกลงไป ยิ่งพบสิ่งที่คล้ายๆ ประวัติศาสตร์เบื้องหลัง"

Jurassic Park

ด้วยความช่วยเหลือจาก บุคลากรมากความสามารถแบบ "ดร.เฮนรี่ วู"

'จอห์น แฮมมอนด์' เจ้าของบริษัทอินเจ็น (InGen) ผู้ใช้เกาะอิสลาซอร์นา เป็นแหล่งเพาะพันธุ์

ใกล้เปิดสวนสนุกในฝัน 'จูราสสิค พาร์ค' ขึ้นบนเกาะ 'อิสลา นูบลาร์' (นอกชายฝั่งประเทศคอสตาริกา) ได้แล้ว

แต่คนงานนายหนึ่ง ดันโดนไดโนเสาร์สังหาร 

พวกนักลงทุนจึงยืนกราน ให้ประเมินความปลอดภัยก่อนเปิดทำการ

เหล่านักคณิตศาสตร์ 'ดร.เอียน มัลคอล์ม', นักบรรพชีวินวิทยา 'ดร.อลัน แกรนท์' , ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชดึกดำบรรพ์ 'ดร.เอลลี่ แซทเลอร์' และทนายความเลยถูกเชิญมา

ก่อนคณะผู้ประเมินพาลซวยยกเข่ง เพราะโปรแกรมเมอร์ประจำสวนสนุก 'เดนนิส เน็ดดรี้' 

อาศัยจังหวะมีพายุพัดเข้าเกาะ ป่วนระบบรักษาความปลอดภัย

ขโมยเอ็มบริโอ (ตัวอ่อน) ไดโนเสาร์ ไปขายบริษัทคู่แข่งอินเจ็น

ตัวประกอบของ Jurassic Park ที่จะกลับมาใน Dominion

Jurassic World ภาค 3 จะนำตัวร้ายเก่าจากหนัง Jurassic Park ภาคแรก (ซึ่งเคยโผล่หน้าแค่นิดเดียว) กลับมาใช้

นั่นคือนาย 'ลิวอิส ดอดจ์สัน' (Lewis Dodgson) จากไบโอซิน (BioSyn) 

ที่ว่าจ้างให้เดนนิส เน็ดดรี้ ขโมยเอ็มบริโอไดโนเสาร์

ฝ่ายเดนนิสสิ้นชีวี แถมเอ็มบริโอหายสาบสูญ แต่ผู้ว่าจ้างเขายังอยู่

แถมภายหลังได้ดิบได้ดี กลายเป็น CEO ของไบโอซินซะงั้น

หน้าตาลิวอิสจะเปลี่ยนบ้าง สืบเนื่องจากเหตุผลนอกจอ

บทนี้เคยใช้บริการดาราชื่อ 'คาเมรอน ธอร์' แต่เพราะเขาต้องคดีล่วงละเมิดทางเพศเข้า (ผิดจริงไม่ผิดจริงคืออีกเรื่อง)

หนังภาคล่าสุดจึงใช้ดาราคนใหม่ คือ 'แคมป์เบลล์ สก็อต'

Jurassic Park 2 & 3

เกาะอิสลาซอร์นา กลายเป็นเวทีหลักของเรื่องราวแทนชั่วคราว

เอียน มัลคอล์ม ถูกเรียกกลับมาแบกหนังภาคสอง, เพราะเมียเขาต่อต้าน

พวกที่ไม่ยอมปล่อยสัตว์ดึกดำบรรพ์คืนชีพ อาศัยในสภาพแวดล้อมของตัวเองอย่างสงบ

พยายามเอามาจัดแสดงบนแผ่นดินใหญ่, และลงเอยที่มันคลั่ง วิ่งพล่านไปทำลายเมืองซานดิเอโกซะทั่ว

หลังไดโนฯ คลั่งสงบลง และถูกส่งกลับ, ก็ใช่ว่าไม่มีใคร ไปแส่หาเรื่องสัตว์โลกล้านปีที่เกาะมันอีก

เด็กชายคนหนึ่งหายสาบสูญ ขณะทัวร์อยู่ใกล้เกาะอิสลา ซอร์นา  

พ่อแม่ของเขาจึงหลอก 'อลัน แกรนท์' ผู้โด่งดังหลังรอดชีวิตจากจูราสสิค พาร์ค ให้ไปช่วยทำภารกิจตามหา & กู้ภัย

สวนสนุกที่ได้เปิดทำการ

บริษัทมัซรานี่ (Masrani) อันทรงอิทธิพลด้านกิจการสื่อสารโทรคมนาคม, น้ำมัน และชีววิศวกรรม  

เข้าซื้อกิจการอินเจ็น หลังการเสียชีวิตของจอห์น แฮมมอนด์เมื่อปี 1997 และเริ่มเดินแผนฟื้นฟูโครงการ 

สร้างสวนสนุกจัดแสดงไดโนเสาร์แห่งใหม่ขึ้น บนเกาะอิสลา นูบลาร์

อาคารสวนสนุกแห่งเก่า (จูราสสิค พาร์ค) โดนปล่อยทิ้ง ชำรุดทรุดโทรมลงตามกาลเวลา

ไดโนเสาร์บางส่วนที่มีชีวิตหลงเหลือ บนเกาะนูบลาร์, ถูกไล่จับกลับมา

สวนสนุกแห่งใหม่ถูกตั้งชื่อว่า 'จูราสสิค เวิลด์' การก่อสร้างเสร็จสิ้นค.ศ. 2004, เปิดทำการปี 2005 

และเพื่อรักษายอดผู้เข้าชม & ยอดรวมเงินค่าตั๋ว

มัซรานี่เรียกใช้บริการ ดร.เฮนรี่ วู (เจ้าเก่า) ให้สร้างสัตว์ดึกดำบรรพ์เพิ่มเติม เสริมความแปลกใหม่อยู่เนือง ๆ

...ตรงจุดนี้ต้องอธิบายเพิ่มนิดนึงว่า สำหรับเราๆ ท่านๆ ที่อาศัยในโลกความจริง 

จู่ ๆ 'จูราสสิคเวิลด์' มันก็เพิ่งมา, สวนสนุกล่มอีกครา และยังเป็นแค่ภาพยนตร์

หลายคนอาจไม่อิน, เวลาตัวละครซึ่งวิ่งป่าราบ เพราะโดนไล่งาบ 

พยายามช่วยเหลือไดโนเสาร์ อย่างมีมนุษยธรรม

ทว่าสำหรับบรรดามนุษย์ในจักรวาล Jurassic พวกเขาควรมีมุมมองที่ต่างกับเรามาก

เพราะผู้ใหญ่จะรับรู้ว่าไดโนเสาร์ คือสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงเดียวกับตน ตั้งแต่ยุค 1990s โน่น

ส่วนเด็กรุ่นใหม่ คือโตมาโดยรับทราบว่า, มันมีสวนสัตว์จัดแสดงไดโนฯ และหลายคนเคยไปเยือน อยู่ตั้งทศวรรษนึง

การมองว่าพวกมันมี "สิทธิสัตว์" เหมือนเพื่อนร่วมโลกชนิดอื่น ๆ 

จึงเป็นเรื่องที่จริงสำหรับพวกเขา และจะทวีความสำคัญ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ภายหลัง

Camp Cretaceous

ค่ายครีเตเชียสคืออนิเมชั่นซีรีส์ ที่อยู่ในจักรวาลเดียวกับภาพยนตร์ชุด Jurassic Park

เหตุการณ์เกือบทั้งหมดของซีซั่น 1 เกิดขึ้นพร้อมกับอุบัติภัยสวนสนุกล่ม ที่ผู้ชมพบในหนัง Jurassic World ภาค 1

เนื้อหาส่วนหลังจากนั้นเป็นตัวของตัวเองซะมาก, แต่มีจังหวะที่ปรากฏฉากใน Fallen Kingdom

อีกทั้งผู้ผลิตเคยบอกไว้ว่า มันจะเกี่ยวข้อง Dominion ด้วย, แม้ไม่ยอมเผยไต๋ ว่าอย่างไรและแค่ไหน ?

สวนสนุกจูราสสิค อยากทดสอบโครงการใหม่ ที่ใช้ดึงดูดผู้เข้าชมวัยเยาว์ให้เพิ่มจำนวน

จึงคัดตัวเด็กชายและหญิง 6 คน มาทดสอบการจัดค่ายพักแรมบนเกาะอิสลานูบลาร์ ชื่อ "แคมป์ครีเตเชียส"

หลังจากนั้นไม่นาน, หลานๆ ของแคลร์ เดียริ่ง (ผู้ดูแลสวนสนุก)

และคุณมาสรานี (เจ้าของจูราสสิคเวิลด์) แวะเยือนจูราสสิคเวิลด์พร้อมกัน

แถมผู้ใหญ่ที่ดูแลแคมป์ครีเตเชียส ดันติดกิจธุระอื่น

แก๊งชาวค่ายจึงต้อง เอาตัวรอดกันตามลำพัง, ในวันที่มาสรานีเสียชีวิต เพราะอินโดไมนัสเร็กซ์หลุดจากกรง

และเจ้าสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม, เริ่มการไล่เข่นฆ่าทุกสิ่ง บนอิสลานูบลาร์

ระหว่างการผจญภัยพวกเค้าบางคน ผูกพันกับแองคิโลซอรัส (พันธุ์ที่มีเกราะเต็มร่าง) ชื่อบัมปี้เป็นพิเศษ

ซีรีส์นี้ยังเปิดตัวบริษัทคู่แข่งอินเจ็นรายใหม่ นั่นคือแมนตาห์คอร์ป (Mantah Corp) 

ซึ่งขโมยความลับจากแล็บผลิตไดโนฯ ของด็อกเตอร์วู, แถมมีเกาะนิรนามที่เป็นเหมือนห้องทดลองขนาดยักษ์

เป้าหมายหลักที่เผยมาเวลานี้คือ ทดสอบการฝังชิปล้างสมองไดโนเสาร์

และบงการพวกมัน ให้ต่อสู้เอาชีวิตกัน เพื่อความบันเทิงของมนุษย์ (& โกยเงินเข้ากระเป๋า)

Fallen Kingdom

"โอเว่น เกรดี้" อดีตทหารผู้ทำให้เวโลซีแรปเตอร์ รู้จักเชื่อฟังคำสั่งมนุษย์

ถูกแคลร์ เดียริ่ง (ซึ่งผันตัวไปเป็นหัวหน้ามูลนิธิพิทักษ์ไดโนเสาร์) เรียกตัวให้ร่วมทาง 

สู่เกาะนูบลาร์ ที่ใกล้ถึงกาลอวสาน เพราะภูเขาไฟกำลังจะระเบิด

เพื่อทำภารกิจช่วยเหลือ "บลู" เวโลซีฯ ตัวสุดท้ายบนเกาะ ที่โอเว่นเคยเลี้ยงดู & ฝึกสอน

'เอียน มัลคอล์ม' นักคณิตศาสตร์ & นักประเมินความเสี่ยง ผู้เคยผ่านประสบการณ์หฤโหดเกี่ยวกะไดโนฯ 

กล่อมรัฐบาลให้เชื่อว่า ควรปล่อยสัตว์พวกนั้นสูญพันธุ์ซ้ำ

การกู้ชีพพวกมัน จึงตกเป็นหน้าที่ของเอกชนเพียงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งยื่นมือเข้ามายุ่ง

แต่เบนจามิน ล็อควู้ด (สปอนเซอร์หลักของการกู้ชีพเหล่าไดโนฯ เพื่อเอาไปปล่อยในเขตสงวน) กับแคลร์

ไม่ทันตระหนักว่าความโลภ เข้าเกาะกินจิตใจ ชายที่เป็นมือขวาของเบนจามินอยู่

เจตนาจริงหมอนี่คือการค้ากำไร จากเหล่าไดโนฯ ที่พาออกนอกเกาะ

เบนจามินผู้ชราภาพ เลยโดนสังหารคาเตียงนอน

ส่วนโอเว่นกะแคลร์ แอบติดตามสู่งานประมูลไดโนฯ อันจัดขึ้น ณ คฤหาสน์ตระกูลล็อควู้ด

ก่อนเข้าขวางงานประมูล จนเกิดความโกลาหล 

แล้วมีคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ทำให้อสูรตัดต่อพันธุกรรมตัวใหม่ของวู (อินโดแรปเตอร์) มีโอกาสหลุดจากกรง

อินโดแรปเตอร์ ไล่เขมือบพวกที่มาซื้อไดโนฯ และถล่มงานประมูลเละ 

โอเว่น & แคลร์ ช่วยชีวิตเด็กหญิง "เมซี่ ล็อควู้ด" อายุ 9 ขวบ

เธอคือเด็กที่เกิดจากการโคลนนิ่ง ลูกสาวของเบนจามิน ผู้ล่วงลับด้วยอุบัติเหตุ

จึงเห็นอกเห็นใจพวกไดโนเสาร์ อันกำเนิดด้วยเทคโนโลยีคล้ายกัน เป็นพิเศษ

เมื่อปราบอินโดแรปเตอร์เสร็จ และตระหนักว่าแก๊สอันตรายรั่ว ในส่วนกักขังเหล่าไดโนฯ

แคลร์เกือบจะปล่อยพวกมันสู่โลกภายนอก แต่ก็หยุดตัวเองไว้ทัน

ทว่าเมซี่คือคนตัดสินใจขั้นสุดท้าย... ไม่ทราบเพราะเธอยังอายุน้อยเกินกว่า จะเข้าใจระดับผลกระทบหรือเปล่า

จึงกดปุ่มเปิดประตูขังไดโนฯ บานสุดท้าย, ส่งผลให้พวกมันทั้งหลาย ได้กระจายตัวสู่แผ่นดินใหญ่ทวีปอเมริกา

Battle at Big Rock

ภาพยนตร์ขนาดสั้นเรื่อง Battle at Big Rock คือเหตุการณ์ 1 ปีหลัง Fallen Kingdom 

อุทยานแห่งชาติหินใหญ่ (Big Rock National Park) คือสถานที่ซึ่งไดโนเสาร์เดินเพ่นพ่าน 

เรื่องราวจะติดตามครอบครัว ที่ต้องเผชิญหน้าสัตว์ป่าดึกดำบรรพ์ และการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดของพวกเขา

รวมทั้งนำเสนอสภาพคร่าวๆ ว่าพวกไดโนเสาร์ แพร่กระจายไปทั่วดาวพระเคราะห์โลกแล้ว

บลู และลูก

เดิมทีดร.วู ต้องการตัวบลู เพื่อใช้ดีเอ็นเอบริสุทธิ์ของมัน

รังสรรค์อสูรตัดต่อพันธุกรรมตนใหม่ ที่เชื่อฟังคำสั่งมนุษย์และเป็นอาวุธชีวภาพสมบูรณ์แบบ

แต่แผนล้มเหลว เนื่องจากตอนบลูโดนจับ, มันถูกยิงจนต้องรับ การถ่ายเลือดจากไดโนเสาร์อื่น

โลหิตบลูปนเปื้อน จึงตอบสนองเป้าหมายของวู มิได้อีก

แต่ในตัวอย่างภาพยนตร์ Dominion อันหนึ่ง เผยว่า "ลูกของบลู" ถูกลักพาตัวด้วยจุดประสงค์บางประการ

ดังนั้นคาดว่าอาจเกี่ยวข้อง กับการใช้ดีเอ็นเอของไดโนเสาร์เด็ก 

ซึ่งควรเหมือนของแม่มัน ก่อนถ่ายเลือดเปี๊ยบ อะไรทำนองนั้นครับ