บทหนัง Toy Story 4 ถูกพัฒนาขึ้นอย่างลับๆ มาหลายปีดีดัก ตั้งแต่ก่อนหน้า Toy Story 3 เผยแพร่เมื่อค.ศ. 2010 ด้วยซ้ำ แม้ภาพยนตร์อนิเมชั่นน้ำ...
บทหนัง Toy Story 4 ถูกพัฒนาขึ้นอย่างลับๆ มาหลายปีดีดัก ตั้งแต่ก่อนหน้า Toy Story 3 เผยแพร่เมื่อค.ศ. 2010 ด้วยซ้ำ
แม้ภาพยนตร์อนิเมชั่นน้ำดีของพิกซาร์ชุดนี้ เคยทำท่าจะจบลงถาวรไปแล้วในตอนนั้น
เพราะขนาดลี อันเคิร์ช/ผู้กำกับภาพ ยังเคยบอกว่า: "เราไม่มีแผนจะทำ Toy Story 4"
แต่เห็นๆ กันอยู่ตอนนี้ว่าภาค 4 โผล่มา ผู้กำกับหนัง 'จอช คูลีย์' กับผู้อำนวยการสร้าง 'โจนาส ริเวร่า' จึงชี้แจงให้ดังนี้
"ความจริงผู้เขียนบทของเรา แอนดรูว์ สแตนตัน, ผู้เป็นดั่งเจ้าพ่อขาใหญ่ที่เขียนบทให้หนัง Toy Story ทุกภาค เริ่มทำบทร่างของภาค 4 ไว้ตั้งแต่ตอนภาค 3 เกือบจะสร้างเสร็จโน่น" คูลีย์เผย "แต่เขาเก็บเงียบเป็นความลับ ไม่ยอมบอกให้พวกเราทราบเลย"
มีแค่สแตนตันกับผู้ได้รับเลือกในพิกซาร์เพียงไม่กี่คน ที่ทราบเรื่องเขากำลังเขียนบทร่าง
แล้วโครงการใหญ่ที่ต้องทุ่มเทเพื่อพัฒนาสุดกำลังก็เข้าแทรกกลางคัน นั่นคือ 'Inside Out' ภาพยนตร์อนิเมชั่นอันว่าด้วยเรื่องวุ่นวายของอารมณ์ต่างๆ ภายในจิตใจของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
พอหายยุ่ง สแตนตันก็เสนอให้สร้าง Toy Story 4 ขึ้นมา ทว่าขนาดผู้คนในพิกซาร์เองยังแคลงใจว่า "จะสร้างทำไม ?"
จนสแตนตันต้องเสียเวลากล่อมเพื่อนร่วมงาน ว่า Toy Story ยังมีเรื่องราวใหม่ดีๆ ให้นำเสนอ
Inside Out
"มันเริ่มดูเป็นไปได้ขึ้นมาทีละนิดอย่างช้าๆ, เราเริ่มขบคิดหาหนทางไปต่อ และตระหนักว่าตอนจบของ Toy Story 3 เป็นเพียงตอนจบเรื่องราวของแอนดี้เท่านั้น
วู้ดดี้เอาตัวรอดจากวิกฤติ, ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย และย้ายไปอยู่กับบอนนี่แล้วก็จริง
แต่วู้ดดี้ต่างหากคือแกนหลักแห่งเรื่องราวของ Toy Story" ริเวร่าเสริม
"พอพูดแล้วก็นึกได้, ลูกๆ ของแอนดรูว์เข้าชั้นมหาวิทยาลัยและย้ายออกจากบ้านไปแล้ว เขาคงเอาประสบการณ์มาใช้
อารมณ์แบบ, คุณจะทำอะไรอีก เมื่อถึงจุดที่ทำทุกอย่างเพื่อลูกไปเต็มที่แล้ว แต่ชีวิตยังไม่สิ้นสุดลง ?
คุณคงต้องหาทางยกเครื่องใหม่และผลักดันให้ตัวเองเดินหน้าต่อ
นั่นแหละสิ่งที่เราสนใจ ว่าวู้ดดี้เค้าจะทำอะไรต่อ ?"
แต่การผจญภัยเพื่อผลักดันชีวิตไปข้างหน้าของวู้ดดี้
มิใช่สิ่งที่สแตนตันอยากมุ่งเน้นให้เป็นประเด็นหลักอันดับหนึ่ง, สิ่งที่เขาปรารถนาจะเล่าหนักกว่า คือการกลับมาของโบปี๊บ
"โบปี๊บกลับมาในภาคนี้ นั่นต่างหากที่สำคัญกว่า" คูลีย์สนับสนุน "ตอนแรกก็ไม่ได้จะเน้น แต่หลังผลิตมันสักพัก ผมรู้สึกราวกับตัวหนังมันบอกเองว่าควรทำอย่างงั้น ซึ่งแน่ละว่าตัวผมเห็นด้วย
ฉะนั้นไม่ใช่แอนดรูว์บอกให้เล่าประเด็นของบุพการีที่ลูกโตแล้วย้ายออกไป
ผมเลยชอบใจทำตามดื้อๆ นะ เขามาเสนอว่า 'ถ้าโบปี๊บกลับมาจะเป็นยังไง ?' ต่างหาก"
พอเหล่าผู้สร้างตกลงกันได้ โครงการหนังภาค 4 ก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง
โดยเล่นประเด็นเรื่อง: บอนนี่/เจ้าของใหม่วู้ดดี้ แตกต่างจากแอนดี้อย่างไร และในเมื่อวู้ดดี้ไม่ใช่ของเล่นชิ้นโปรดอีกต่อไป
วู้ดดี้ควรพัฒนาบุคลิกของตัวเองต่อแบบไหน
"มันน่าสนใจนะ เรารู้จักตัวละครนี้ดี แต่ในสถานการณ์ใหม่เช่นนี้เขาควรทำตัวยังไง ? เราลองตรึกตรองความเป็นไปได้หลายๆ ทาง ก่อน 'ฟอร์กกี้' จะผุดขึ้นมาโดยบังเอิญ
เราจินตนาการว่าฟอร์กกี้บังคับให้วู้ดดี้อธิบาย 'ความหมายของการเป็นของเล่น' และจากนั้นไอเดียเกี่ยวกับบทสนทนาต่างๆ ก็ค่อยๆ ตกผลึกตามมา
บทสนทนาซึ่งวู้ดดี้คุยกับฟอร์กกี้บนถนน มันคือความหมายของการที่ลูกคุณไม่อยู่ที่บ้านอีกแล้ว
ตอนผมอ่านสิ่งที่แอนดรูว์เขียนนี่ถึงขั้นกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะมันเขียนได้จับใจมาก
ผมถึงกับบอกเขาว่า, 'คนอื่นเขียนอะไรแบบนี้ไม่ได้แน่ สมกับเป็นผู้มีประสบการณ์ตรง ผมสัมผัสมันได้ผ่านหน้ากระดาษเลยละ'"
ที่มา: comingsoon
COMMENTS